อายุ การใช้งานของผ้าเบรกนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ชนิดหรือคุณภาพของผ้าเบรก น้ำหนักรถ หรือเพื่อความสะดวกและปลอดภัยในการใช้งาน สำหรับผู้ใช้รถรุ่นใหม่มักจะมีระบบไฟเตือนเบรก (War Indicator) อยู่บนแผงหน้าปัด ถ้าไฟเตือนแสดงว่ามีปัญหาที่ระบบเบรก อาจเป็นที่ระบบของน้ำมันเบรกมีอยู่น้อยกว่าระดับที่เหมาะสม หรือผ้าเบรกสึกหรอเหลือบางกว่าที่ควร รถบางประเภทอาจเตือนด้วยเสียง คือ เป็นเสียงที่เกิดขึ้นจากตัวเหล็กที่ยึดติดกับแผ่นดิสก์เบรกขูดบนขอบของจาน เบรก เป็นการเตือนว่าผ้าเบรกมีการหนาน้อยกว่า 3 มิลลิเมตร ดังนั้นจึงควรเปลี่ยนผ้าเบรก ในรถรุ่นเก่า ๆ บางรุ่นที่ไม่มีสัญญาณเตือนอะไรเลย หากเกิดเสียงดังขึ้นมาขณะที่เบรก ก็หมายความว่าผ้าเบรกสึกหรอถึงแผ่นเหล็กแล้ว และแน่นอนว่าย่อมสร้างความเสียหายทำให้จานดิสก์เบรกได้จนต้องเปลี่ยนจานเบรก ใหม่
นอกจากนี้ เราสามารถตรวจเช็คความหนาของผ้าเบรกได้จากความรู้สึกในการเหยียบเบรก เช่น อาจจะรู้สึกคันเหยียบเบรกต่ำกว่าปกติ หรือผ้าเบรกลื่นทำให้ต้องใช้แรงกดของเท้ามากกว่าที่เคยใช้ในการหยุดรถ นอกจากนี้ยังสามารถดูได้จากระดับของน้ำมันในกระปุกน้ำมันเบรก ถ้าพบว่าลดต่ำกว่าปกติ แต่ไม่พบการรั่วไหลของน้ำมันในกระปุกน้ำมันเบรก อาจเป็นไปได้ว่าผ้าเบรกบางลงมาก ทำให้แม่ปั๊มที่คาลิปเปอร์ต้องยื่นตัวออกมามากระดับของน้ำมันเบรกในกระปุก เลยยุบตัวลงมาด้วย
ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยจึงควรนำรถเข้าศูนย์บริการ เพื่อตรวจเช็คผ้าเบรกและระบบเบรกทุก ๆ 3 เดือน หรือประมาณ 5,000 กิโลเมตร เพราะหากตรวจพบว่าผ้าเบรกมีความหน้าน้อยเกินกว่าที่จะใช้งานได้แล้ว ควรรีบทำการเปลี่ยนผ้าเบรกทันที ทั้งนี้เพื่อจะช่วยในการยืดอายุในการใช้งานของจานเบรก และลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษารถยนต์ส่วนอื่น ๆ ที่อาจได้รับความเสียหายจากการสึกหรอของผ้าเบรก ผ้าเบรกที่ดีควรจะมีคุณสมบัติในการหยุดรถได้อย่างปลอดภัยและแม่นยำ มีคุณสมบัติในการทนความร้อนสูง มีส่วนผสมของผงคาร์บอน ทำให้ยืดอายุการใช้งานของจานเบรก และปราศจากสารใยหินจึงช่วยลดมลภาวะทางอากาศ แต่ทั้งนี้คุณอาจพบว่าฝุ่นผงที่เกิดขึ้นจากเขม่าคาร์บอน ทำให้ล้อแม็กเป็นคราบดำ ซึ่งสามารถล้างทำความสะอาดได้ โดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายแต่อย่างใด